สวดมนต์ใจอยู่ศูนย์กลางกาย คุณครูไม่ใหญ่ หลวงพ่อ และเทคนิคการสวดแบบต่างๆ
สวัสดีและเจริญพร นศ.วิชาธัมมจักกัปปวัตนสูตรทุกท่าน
นวันนี้ เราจะได้เรียนรู้เทคนิคการสวดแบบต่างๆ ดังในตารางบันทึกกิจกรรมที่ให้ทุกท่านได้ทำ คือ
- แบบที่ 1 ปล่อยใจไปตามเสียงบทสวด
- แบบที่ 2 ปล่อยไปตามธรรมชาติ พอให้รู้ว่าสวดอยู่
- แบบที่ 3 จดจ่ออยู่กับตัวหนังสือในบทสวด
- แบบที่ 4 สวดไปพร้อมพิจารณาความหมายของบทสวด
- แบบที่ 5 สวดไปนึกเหมือนว่าอยู่ในเหตุการณ์ที่พระพุทธเจ้าแสดงธรรม
- แบบที่ 6 สวดไปโดยมีความรู้สึกว่าเสียงสวดออกมาจากกลางท้อง
- แบบที่ 7 สวดไปนึกถึงภาพพระมหาธรรมกายเจดีย์หรือองค์พระควบคู่ไปด้วย
- แบบที่ 8 อื่นๆ นอกเหนือจากทั้ง 7 แบบตามที่ นศ.ได้ใช้สวด โดยเขียนระบุเพิ่ม
ในการสวดนั้นจะมีทั้งแบบที่ท่านสวดตามสื่อ และสวดเอง ทุกท่านลองฝึกสวดในรูปแบบต่างๆ เพื่อที่ท่านจะได้พบวิธีการสวดที่จะช่วยทำให้จิตเกษมด้วยตัวของท่านเอง
Cr. พม.วุฒิชัย วุฑฺฒิชโย
พอจ.ประจำรายวิชา
"หลวงพ่อคะ สวดมนต์แบบในใจ กับ สวดมนต์แบบออกเสียง อานิสงส์เท่ากันไหมคะ.?"
หลวงพ่อ : "ไม่เท่าหรอก เพราะมันเหนื่อยไม่เท่ากัน… อานิสงส์ ถ้าแปลตามความหมายแปลว่า ผลที่พึงจะได้รับ ลีลาการสวดมนต์ในใจก็ไม่แน่ สุดแท้แต่คน บางคนนึกในใจ จิตเขาฟุ้งซ่านใช่ไหม..บางคนออกเสียงเหนื่อยเกินไป สวดในใจดีกว่า
ก็รวมความว่า สุดแล้วแต่ทำอย่างไหนจิตจะมีสมาธิดีกว่ากัน บางคนนึกในใจไม่ได้หรอก จิตฟุ้งซ่าน ต้องว่าออกเสียงดัง ๆ
ถ้าอย่างหลวงพ่อออกเสียงดังไม่ดี นึกในใจดีกว่า ก็สุดแล้วแต่คน นี่ผลก็ต้องอยู่ที่ว่าคนใดจิตมีสมาธิดีกว่า และสวดมนต์ได้ดีกว่ากัน ต้องถือตามนั้นนะ
การสวดมนต์มีอานิสงส์ใหญ่ สวดน้อยก็มีอานิสงส์ใหญ่ อานิสงส์ใหญ่จริง ๆ อยู่ที่เจตนา จิตมีความเคารพในพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์จริง
และเวลาสวดมนต์ด้วยความเคารพจริง ถึงสวดน้อยก็มีอานิสงส์ใหญ่ ถ้าสวดมนต์ว่าเรื่อยเปื่อยไปไม่ได้ตั้งใจ ว่าส่งเดช อย่างนี้ว่ามาก ก็ยังมีอานิสงส์น้อย
ทีนี้ถ้าจะถามว่าสวดมนต์กับภาวนา อย่างไหนจะมีอานิสงส์มากกว่า ถ้าสวดมนต์ก็อยู่แค่อุปจารสมาธิ ถ้าภาวนาสั้น ๆ จิตเป็นฌานได้ต่างกัน ทีนี้ถ้าคนภาวนาส่งเดชก็ไม่เป็นเรื่องเหมือนกัน แต่ภาวนาส่งเดชก็ดีกว่าไม่ภาวนาเลย ใช่ไหม.."
(ที่มา: http://palungjit.org/threads/สวดมนต์แบบในใจ-กับ-แบบออกเสียง-โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ.349923/)