บทที่ 7 โลกุตรภูมิ
บทที่ 7 โลกุตตรภูมิ
เนื้อหาบทที่ 7 โลกุตรภูมิ
- 7.1 ความเข้าใจเบื้องต้นเรื่องโลกุตรภูมิ
- 7.1.1 ความหมายของโลกุตรภูมิ
- 7.1.2 ศัพท์ที่น่าศึกษา
- 7.2 โสดาบันโลกุตรภูมิ
- 7.2.1 ความหมายของโสดาบันโลกุตรภูมิ
- 7.2.2 คุณวิเศษของพระโสดาบัน
- 7.2.3 ประเภทของพระโสดาบัน
- 7.2.4 พระโสดาบันผู้ท่องอยู่ใน 2 โลก
- 7.3 สกิทาคามีโลกุตรภูมิ
- 7.3.1 ความหมายของสกิทาคามีโลกุตรภูมิ
- 7.3.2 คุณวิเศษของพระสกิทาคามี
- 7.3.3 ประเภทของพระสกิทาคามี
- 7.4 อนาคามีโลกุตรภูมิ
- 7.4.1 ความหมายของอนาคามีโลกุตรภูมิ
- 7.4.2 คุณวิเศษของพระอนาคามี
- 7.4.3 ประเภทของพระอนาคามี
- 7.5 อรหัตโลกุตรภูมิ
- 7.5.1 ความหมายของอรหัตโลกุตรภูมิ
- 7.5.2 คุณวิเศษของพระอรหันต์
- 7.5.3 ประเภทของพระอรหันต์
แนวคิด
- 1. ภูมิของพระโสดาบัน เป็นภูมิลำดับแรกในโลกุตรภูมิ เป็นภูมิที่พ้นจากภพ 3 ของผู้ถึงกระแสพระนิพพาน เป็นพระอริยบุคคลชั้นต้น ผู้ที่เป็นพระโสดาบัน มีคุณวิเศษสามารถละสังโยชน์ได้ 3 อย่าง คือ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส จะกลับมาเกิดอีกไม่เกิน 7 ชาติ
- 2. ภูมิของพระสกิทาคามี เป็นโลกุตรภูมิลำดับที่ 2 เป็นภูมิที่พ้นจากภพ 3 ของผู้ที่จะกลับมาเกิดอีกเพียงครั้งเดียว ผู้ที่จะเข้าถึงสภาวะของความเป็นพระสกิทาคามี จะต้องผ่านความเป็นพระโสดาบันก่อน พระสกิทาคามี มีคุณวิเศษสามารถละสังโยชน์ที่พระโสดาบันละได้ และสามารถขจัดสังโยชน์เพิ่มอีก 2 ตัว คือ กามราคะ และปฏิฆะ ให้เบาบางลงได้อีกด้วย
- 3. ภูมิของพระอนาคามี เป็นโลกุตรภูมิลำดับที่ 3 ของโลกุตรภูมิ ซึ่งจะต้องเจริญภาวนาผ่านความเป็นพระโสดาบัน และพระสกิทาคามีมาตามลำดับ จึงจะเข้าถึงภาวะแห่งความเป็นพระอนาคามี พระอนาคามีมีคุณวิเศษสามารถละสังโยชน์เบื้องต่ำทั้ง 5 อย่าง ซึ่งละสังโยชน์ต่อจากพระสกิทาคามีอีก 2 อย่าง คือ กามราคะ และปฏิฆะ ผู้ที่เป็นพระอนาคามี เมื่อละโลกแล้ว จะบังเกิดในพรหมชั้นสุทธาวาสและบรรลุพระอรหันต์บนนั้น ไม่กลับมาเกิดอีก
- 4. ภูมิของพระอรหันต์เป็นโลกุตรภูมิลำดับสุดท้าย อันเป็นภูมิขั้นสูงสุดของโลกุตรภูมิ เป็นเป้าหมายอันสูงสุดของมวลมนุษยชาติ การจะเป็นพระอรหันต์จะต้องเจริญภาวนาผ่านความเป็นอริยบุคคลทั้ง 3 ขั้นมาตามลำดับ แล้วจึงจะเข้าถึงภาวะแห่งความเป็นพระอรหันต์ได้ คุณวิเศษของพระอรหันต์ คือ นอกจากละสังโยชน์เบื้องต่ำได้ 5 ประการแล้ว ในขั้นนี้สามารถละสังโยชน์เบื้องสูงอีก 5 ประการ คือ รูปราคะ อรูปราคะ มานะ อุทธัจจะ อวิชชา เมื่อละกิเลสได้หมดแล้ว ได้ชื่อว่าเป็นพระอรหันต์ อันเป็นการทำกิจของการเกิดเป็นมนุษย์ได้สมบูรณ์แล้ว เป็นผู้มีความบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ อย่างเต็มเปี่ยม เป็นผู้ที่ควรแก่การบูชา และได้ชื่อว่าเป็นทักขิไณยบุคคลโดยแท้
วัตถุประสงค์
- 1. เพื่อให้นักศึกษาสามารถอธิบาย ความหมาย คุณวิเศษ และประเภทของโสดาบันโลกุตรภูมิได้อย่างถูกต้อง
- 2. เพื่อให้นักศึกษาสามารถอธิบาย ความหมาย คุณวิเศษ และประเภทของสกิทาคามีโลกุตรภูมิได้อย่างถูกต้อง
- 3. เพื่อให้นักศึกษาสามารถอธิบาย ความหมาย คุณวิเศษ และประเภทของอนาคามีโลกุตรภูมิได้อย่างถูกต้อง
- 4. เพื่อให้นักศึกษาสามารถอธิบาย ความหมาย คุณวิเศษ และประเภทของอรหัตโลกุตรภูมิได้อย่างถูกต้อง
GL102-บทที่ 7 โลกุตรภูมิ.pdf
Download