3.2 อัธยาศัยของพระโพธิสัตว์

3.2 อัธยาศัยของพระโพธิสัตว์

ด้วยความที่พระโพธิสัตว์เป็นผู้ที่มีหัวใจอันเด็ดเดี่ยวมั่นคง มีความเพียรพยายาม และมีความอดทนอดกลั้นไม่หวั่นไหวต่ออุปสรรคทั้งหลายทั้งปวง แม้จะต้องแลกมาด้วยชีวิต จึงได้มีผู้อุปมาเปรียบเทียบหัวใจอันยิ่งใหญ่ของพระโพธิสัตว์เอาไว้ดังนี้ว่า “หากแม้ว่าจักวาลอันกว้างใหญ่สุดประมาณนี้ จะมีถ่านเพลิงร้อนระอุอยู่เต็มไปหมดทั่วทั้งจักรวาล พระโพธิสัตว์ก็จะมุ่งหน้าเดินลุยถ่านเพลิงที่ร้อนระอุด้วยเท้าเปล่าไปจนสุดหมื่นจักรวาล”

“หรือหากแม้ว่าจักรวาลอันกว้างใหญ่สุดประมาณนี้ จะเต็มไปด้วยภูเขาเหล็กที่มีเปลวไฟลุกโชติช่วงอยู่ตลอดเวลา อีกทั้ง ตามพื้นดินระหว่างซอกของภูเขานั้น ยังเต็มไปด้วยน้ำทองแดงร้อนที่หลอมละลายอยู่ทั่วทุกพื้นที่ พระโพธิสัตว์ก็จะมุ่งหน้าแหวกว่ายผ่านน้ำทองแดงอันร้อนแรงนั้น ด้วยกำลังแขนทั้งสองของตนเองไปจนสุดหมื่นจักรวาล”

ตัวอย่างถ้อยคำอุปมาอุปมัยที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นว่าหัวใจของพระโพธิสัตว์ยิ่งใหญ่มหาศาลเกินกว่าที่บุคคลทั่วไปจะมาเปรียบได้ เพราะแม้ท่านจะเจอกับอุปสรรคที่หนักหนายิ่งด้วยชีวิต แต่ท่านก็ยอมที่จะเอาชีวิตของตนเองเข้าแลก

 ถึงแม้พระโพธิสัตว์จะมิอาจล่วงรู้ได้เลยว่า ความปรารถนาในการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของท่าน จะสำเร็จลงเมื่อใด แต่ถึงกระนั้น ท่านก็ไม่เคยที่จะท้อแท้ท้อถอย มีแต่จะมุ่งหน้าสั่งสมบุญสร้างบารมีเรื่อยไปจนกว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง นั่นก็คือ...การได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต

  และด้วยเหตุที่พระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีด้วยหัวใจที่เด็ดเดี่ยวมั่นคง และมีความอดทนอดกลั้น จึงทำให้ในบางชาติ แม้ท่านจะพลาดพลั้งไปถือกำเนิดเป็นสัตว์ดิรัจฉาน แต่ท่านก็จะได้ไปเกิดเป็นผู้นำในการทำความดี และเป็นสัตว์ที่ไม่คิดที่จะเบียดเบียนใคร ประมาณว่า...หากท่านพลัดไปเกิดเป็นราชสีห์ ก็จะเป็นราชสีห์ที่ใจดี ไม่ยอมกินเนื้อของสัตว์อื่น หรือแม้ในบางชาติที่พระโพธิสัตว์ได้ไปบังเกิดเป็นมนุษย์ที่มีฐานะยากจน หรือเกิดเป็นคนเข็ญใจ แต่ท่านก็ไม่เคยน้อยใจหรือคิดท้อแท้ท้อถอยในโชคชะตาของชีวิต ซ้ำยังกลับนำวิกฤตมาเป็นแรงผลักดัน ที่ทำให้ท่านได้สั่งสมบุญสร้างบารมีกันอย่างเต็มที่ แบบไม่รู้เบื่อไม่รู้หน่าย

 หรือแม้ในบางครั้ง จะมีมารหรือคนพาลมาคอยขัดขวาง หรือกลั่นแกล้งเพื่อให้พระโพธิสัตว์เลิกสร้างบารมีด้วยวิธีการต่างๆนานา แต่ด้วยอัธยาศัยรักในการสร้างบารมีอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพันของท่าน จึงทำให้ท่านไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรคหรือสิ่งต่างๆที่มากระทบ อีกทั้ง ยังคงมุ่งมั่นในการสั่งสมบุญสร้างบารมีต่อไปอย่างไม่หวั่นไหว


อัธยาศัย รักในการสร้างบารมี ของพระโพธิสัตว์ได้ 6 ประการ ดังต่อไปนี้ คือ


อัธยาศัยข้อที่ 1.เรียกว่า “เนกขัมมัชฌาสัย”

       หมายถึง พระโพธิสัตว์จะมีอัธยาศัยน้อมไปในการบรรพชา หรือมีความคิดที่จะออกบวช ในทุกๆชาติ เพราะโดยปกติ พระโพธิสัตว์จะเป็นผู้ที่เห็นโทษภัยของกาม และมีความรักในเพศบรรพชิตเป็นอย่างยิ่ง

อัธยาศัยข้อที่ 2. เรียกว่า “วิเวกัชฌาสัย”

       หมายถึง พระโพธิสัตว์จะมีอัธยาศัยชอบอยู่ในที่เงียบสงัด มีความสงบวิเวก และชอบอยู่เพียงลำพังคนเดียวไม่ชอบคลุกคลีด้วยหมู่ สถานที่ใดเป็นสถานที่ที่เงียบสงบปราศจากความวุ่นวาย และเสียงอึกทึกครึกโครม พระโพธิสัตว์ย่อมมีความพึงพอใจในสถานที่นั้นยิ่งนัก เพราะโดยปกติ พระโพธิสัตว์จะเป็นผู้ที่เห็นโทษภัยของการคลุกคลีด้วยหมู่คณะ ท่านจึงมีความยินดีในที่นั่งที่นอนอันสงัดเหมาะสมต่อการทำใจให้สงบ

อัธยาศัยข้อที่ 3.เรียกว่า “อโลภัชฌาสัย”

       หมายถึง พระโพธิสัตว์จะมีอัธยาศัยพอใจในการบริจาคทานเป็นชีวิตจิตใจ หากมีช่องทางใดที่จะทำให้ท่านบริจาคทานได้ ท่านก็จะทำทานอย่างเต็มที่เต็มกำลัง นอกจากพระโพธิสัตว์จะชอบการบริจาคทานแล้ว ท่านยังยินดีที่จะคบหากับบุคคลผู้ปราศจากความโลภ และไม่มีความตระหนี่เป็นยิ่งนัก

อัธยาศัยข้อที่ 4.เรียกว่า “อโทสัชฌาสัย”

       หมายถึง พระโพธิสัตว์จะมีอัธยาศัยเป็นผู้ไม่มักโกรธ และจะพยายามหักห้ามความโกรธอยู่ตลอดเวลา เพราะโดยปกติ พระโพธิสัตว์จะเป็นผู้ที่มีความปรารถนาอยากจะให้สรรพสัตว์ทั้งหลายพ้นจากทุกข์ภัยในวัฏสงสาร ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงหมั่นเจริญเมตตาให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายอยู่ตลอดเวลา

อัธยาศัยข้อที่ 5.เรียกว่า “อโมหัชฌาสัย”

       หมายถึง พระโพธิสัตว์จะมีอัธยาศัยพอใจในการทำลายโมหะ ด้วยการบำเพ็ญภาวนา เพื่อให้เกิดดวงปัญญาในการพิจารณาเห็นบาป บุญ คุณ และโทษ เป็นไปตามความเป็นจริง อีกทั้งพระโพธิสัตว์ยังพอใจในการคบหาบัณฑิตหรือกัลยาณมิตร เพื่อที่ท่านจะได้เพิ่มพูนสติปัญญาให้งอกงามยิ่งๆขึ้นไป

อัธยาศัยข้อที่ 6.เรียกว่า “นิสสรณัชฌาสัย”

       หมายถึง พระโพธิสัตว์จะมีอัธยาศัยพอใจที่จะยกตนเองออกจากภพ กล่าวคือ...ไม่ยินดีในการเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพสาม และมีความปรารถนาที่จะออกจากคุกแห่งวัฏสงสารอันเป็นทุกข์ เพราะโดยปกติ พระโพธิสัตว์จะเป็นผู้ที่เห็นโทษภัยในวัฏสงสาร และยังมีจิตที่มุ่งตรงสู่หนทางแห่งพระนิพพานเพียงอย่างเดียว

สำหรับอัธยาศัยรักในการสร้างบารมีทั้งหกประการนี้ ถือเป็นลักษณะนิสัยโดยปกติของพระโพธิสัตว์ที่ยอดนักสร้างบารมีทุกๆคนควรจะมี เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นเครื่องป้องกันไม่ให้ตัวเราเผลอไปทำบาปอกุศลกรรมในระหว่างเส้นทางแห่งการสร้างบารมี ซึ่งอัธยาศัยรักในการสร้างบารมีทั้งหกประการนี้ ใช่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครได้ง่ายๆ เพราะการที่พระโพธิสัตว์จะมีลักษณะนิสัยเช่นนี้จนเป็นปกติ ท่านจะต้องผ่านการสั่งสมบุญสร้างบารมีไปพร้อมๆกับการแก้ไขนิสัยที่ไม่ดีของตัวเอง มานับภพนับชาติไม่ถ้วน

 อีกทั้งไม่ว่าพระโพธิสัตว์จะถือกำเนิดอยู่ในสภาวะใดก็ตาม กล่าวคือ...จะเกิดเป็นคนหรือจะเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ท่านก็ยังคงมุ่งมันที่จะพัฒนานิสัยของตนเอง จนกว่าตัวท่านจะมีอัธยาศัยรักในการสร้างบารมีทั้งหกประการติดเข้าไปในใจ เพราะฉะนั้น บุคคลใดก็ตามที่มีอัธยาศัยรักในการสร้างบารมีทั้งหกประการนี้ บุคคลคนนั้นย่อมได้ชื่อว่า...เป็นพระโพธิสัตว์ ผู้มุ่งตรงต่อหนทางแห่งการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

 


 


 





Complete and Continue