3.6 ธรรมสโมธาน 8

 3.6 ธรรมสโมธาน 8

แปลว่า การประมวลรวมกันแห่งธรรม

นอกจากคุณสมบัติพิเศษทั้ง 10 ประการแล้ว พระโพธิสัตว์จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีธรรมสำคัญอีกแปดประการ ที่เรียกว่า ธรรมสโมธาน ซึ่งจะเป็นเครื่องยืนยันและเพิ่มความมั่นใจให้กับท่านว่า...ท่านจะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตอย่างแน่นอน

 ก่อนที่พระโพธิสัตว์จะได้รับพุทธพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง เป็นครั้งแรกว่า “ตัวท่านจักได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคต” พระโพธิสัตว์ท่านนั้น จะต้องประกอบด้วยธรรมอันสำคัญยิ่งประการหนึ่ง นั่นก็คือ ธรรมสโมธาน ซึ่งมีอยู่ด้วยกันทั้งหมดแปดประการ ดังต่อไปนี้ คือ

ข้อที่ 1.ได้แก่ ความปรารถนาที่จะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ธรรมสโมธานข้อนี้ถือเป็นสิ่งที่พระโพธิสัตว์จำเป็นจะต้องมี ทั้งนี้ก็เป็นเพราะการได้อัตภาพแห่งความเป็นมนุษย์นั้น พระโพธิสัตว์จะสามารถสั่งสมบุญและสร้างบารมีได้ดียิ่งกว่าการไปเกิดในอัตภาพอื่นๆ เช่น อัตภาพของเทวดา พรหม อรูปพรหม หรือสัตว์เดรัจฉาน เป็นต้น

ข้อที่ 2.ได้แก่ ความถึงพร้อมด้วยเพศ ซึ่งการที่พระโพธิสัตว์จะมีโอกาสได้รับพุทธพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ท่านจะต้องมีเพศที่ไม่วิบัติ หรือไม่เป็นอภัพบุคคล นั่นก็คือ จะต้องเป็นบุรุษเพศหรือเพศชายเท่านั้น เนื่องจากบุรุษเพศจะมีรูปร่างลักษณะที่ใกล้เคียงกับลักษณะของกายมหาบุรุษมากที่สุด และยังเป็นกายที่สามารถสั่งสมบุญสร้างบารมีได้อย่างดีที่สุดอีกด้วย

 แต่ถ้าไม่ได้...ความถึงพร้อมด้วยเพศชาย กล่าวคือ เป็นเพศหญิง บัณเฑาะว์ กะเทย หรือเป็นบุคคลมีสองเพศในคนเดียวกัน ที่เรียกว่า อุภโตพยัญชนก พระพุทธองค์ก็จะไม่ทรงพยากรณ์ความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคต แก่พระโพธิสัตว์ท่านนั้นอย่างเด็ดขาด

ข้อที่ 3 ได้แก่ ความถึงพร้อมด้วยเหตุ หมายความว่า พระโพธิสัตว์จะต้องมีอุปนิสัยแห่งความเป็นพระอรหันต์ในขันธสันดาน อย่างแรงกล้า จึงจะมีโอกาสได้รับพุทธพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ แต่ถ้าหากว่าอุปนิสัยแห่งความเป็นพระอรหันต์ของท่านยังไม่เกิดขึ้น หรือแม้เกิดขึ้นแล้ว แต่อุปนิสัยแห่งความเป็นพระอรหันต์ในขันธสันดานยังไม่แก่กล้า พระพุทธองค์ก็จะไม่ทรงพยากรณ์ความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคต ให้แก่พระโพธิสัตว์ท่านนั้นอย่างเด็ดขาด

ข้อที่ 4.ได้แก่ การได้เกิดมาพบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สำหรับธรรมสโมธานข้อนี้ ถือเป็นโอกาสอันสำคัญยิ่ง ที่จะทำให้พระโพธิสัตว์ได้มีโอกาสสั่งสมบุญครั้งใหญ่ พร้อมทั้งตั้งความปรารถนาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต่อหน้าพระพักตร์ของพระพุทธองค์ และเมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรวจดูความสำเร็จแห่งความปรารถนาของพระโพธิสัตว์ ด้วยอนาคตังสญาณแล้ว พระองค์ก็จะทรงพยากรณ์ความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคต แก่พระโพธิสัตว์ท่านนั้น ซึ่งพุทธพยากรณ์นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องออกมาจากพระโอษฐ์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น

ข้อที่ 5.ได้แก่ การได้บรรพชา คือ การที่พระโพธิสัตว์มีอัธยาศัยน้อมไปในการออกบวช ซึ่งไม่ว่าท่านจะออกบวชเป็นนักบวชในพระพุทธศาสนา หรือนอกพระพุทธศาสนาก็ตาม แต่ถ้าหากท่านเป็นสัมมาทิฐิ มีความเชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม (เชื่อว่าบุญมีจริง บาปมีจริง ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว) และมีความมั่นคงในเพศบรรพชิตแล้ว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็จะทรงพยากรณ์ความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคต แก่พระโพธิสัตว์ท่านนั้น

ข้อที่ 6 ได้แก่ ความถึงพร้อมด้วยคุณวิเศษ หมายความว่า พระโพธิสัตว์จะต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติพิเศษเหนือกว่าคนธรรมดาสามัญทั่วไป โดยท่านจะต้องมีความเชี่ยวชาญในอภิญญาและฌานสมาบัติ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงจะทรงพยากรณ์ความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตแก่พระโพธิสัตว์ท่านนั้น

ข้อที่ 7 ได้แก่ ความถึงพร้อมด้วยการกระทำอันยิ่ง หมายความว่า พระโพธิสัตว์จะทำในสิ่งที่เหนือเกินกว่าการกระทำของมนุษย์ทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าหากสิ่งไหนเป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์ และเป็นไปเพื่อมรรคผลนิพพานแล้ว แม้คนธรรมดาทั่วไปจะไม่กล้าที่จะคิด พูด หรือทำในสิ่งนั้น แต่ท่านกลับมีความกล้าที่จะคิด พูด และทำในสิ่งนั้น ด้วยจิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเพียรและความมุ่งมั่น จนกระทั่ง ท่านสามารถทำสิ่งนั้นสำเร็จได้ในที่สุด

ข้อที่ 8 ได้แก่ ความถึงพร้อมด้วยความพอใจ หมายความว่า ทุกภพทุกชาติที่พระโพธิสัตว์ได้เกิดมา ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์เดรัจฉานก็ตาม ท่านจะมีความรักและปรารถนาความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะมีอุปสรรคขวากหนามเกิดขึ้นมาขัดขวางการสร้างบารมีของท่านมากสักเพียงไร แต่ท่านก็ไม่ย่อท้อและไม่หวาดกลัวต่ออุปสรรคเหล่านั้นเลย ทั้งนี้ก็เป็นเพราะจิตใจของท่านรักและมุ่งมั่นที่จะบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณให้ได้เป็นสำคัญ

 


Complete and Continue