xel Code -->
1.1.ชีวประวัติพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
ภาพที่ 6 การศึกษาในวัยเด็ก
การศึกษาในวัยเด็ก
ท่านช่วยโยมของท่านทำงานตั้งแต่ยังเป็นเด็ก จนอายุได้ประมาณ 9 ปี โยมแม่ของท่านได้ส่งให้ ไปเรียนหนังสือกับน้าชาย1 ซึ่งบวชเป็นพระภิกษุอยู่ที่วัด สองพี่น้อง เริ่มต้นเรียนจากหนังสือ ปฐม ก กา ตามหลักสูตรการศึกษาใน สมัยนั้น ต่อมาไม่นานพระน้าชายได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดหัวโพธิ์ ตำบลหัวโพธิ์ อำเภอ สองพี่น้อง ท่านได้ตามไปเรียนหนังสือต่อที่นั่นด้วยประมาณ 78 เดือน จากนั้นพระน้าชายก็ย้ายไป จำพรรษาที่วัดกัลยาณมิตร ธนบุรี แล้วจึงลาสิกขาส่วนท่านไปเรียนต่อที่วัดบางปลา2 อำเภอบางเลน จังหวัด นครปฐม กับพระอาจารย์ทรัพย์ซึ่งเป็นเจ้าอาวาส ขณะนั้นท่านอายุได้ 11 ปี นอกจากท่านจะเขียนอักษรขอมได้แล้ว ยังสามารถอ่านหนังสือพระมาลัย3 ซึ่งเขียนเป็นอักษร ขอมได้คล่อง ท่านตั้งใจเรียนและมีผลการเรียนดี เพราะเป็นคนมีนิสัยทำอะไรทำจริงมาตั้งแต่เล็กๆ ท่านใช้ เวลาเรียนอยู่ที่นั่น 2 ปี จึงกลับไปช่วยโยมพ่อโยมแม่ค้าข้าวที่บ้านเกิดตามเดิม
ภาพที่ 7 พระอาจารย์ทรัพย์ วัดบางปลา
ขยันประกอบสัมมาอาชีพ
เมื่อกลับมาอยู่บ้านได้ประมาณ 1 ปี (ขณะนั้นอายุ 14 ปี) โยมพ่อได้ถึงแก่กรรมลง ท่านจึงดูแล การค้าแทน มีเรือบรรทุกข้าวข้างกระดานใหญ่ 2 ลำ และลูกเรืออีกหลายคน ล่องเรือค้าข้าวระหว่าง อำเภอ สองพี่น้องกับกรุงเทพฯ เดือนละ 23 ครั้ง โดยซื้อข้าวมาขายให้กับโรงสีที่กรุงเทพฯ บ้าง ที่อำเภอนครไชยศรีบ้าง ท่านเป็นคนมีฐานะดีเพราะขยันและซื่อสัตย์ในการค้าขาย จึงเป็นเหตุให้ได้รับความไว้วางใจมาก ตัวอย่างเช่น การซื้อข้าวไปขาย เมื่อตกลงราคากันได้แล้ว ท่านก็สามารถขนข้าวลงเรือไปขายก่อน หลังจาก ขายข้าวได้เงินมาแล้ว จึงนำเงินมาจ่ายให้ทีหลัง
มีปัญญาเฉลียวฉลาด
ครั้งหนึ่งขณะที่ท่านล่องเรือไปค้าข้าวที่กรุงเทพฯ พร้อมกับลูกเรือ ขณะที่จอดเรืออยู่ในคลอง บางกอกน้อย ลูกจ้างของพี่เขยคนหนึ่งขโมยเงินและทองไป รวมมูลค่าประมาณ 1,000 บาทเศษ ( สมัยนั้น เงิน 50 ตางค์ ซื้อกล้วยได้ 100 หวี) ท่านจึงไปแจ้งความกับตำรวจ พอตกเย็นตำรวจ 4 นาย ได้นำ เรือกลไฟมารับ เพื่อไปบ้านของภรรยาคนร้ายที่คลอง 12 ท่านกับตำรวจได้ออกติดตามไปตลอดทั้งคืนไม่ได้หยุด โดยตั้งใจว่าหากยังจับคนร้ายไม่ได้ก็จะ ไม่ยอมกลับ พอรุ่งสางก็ถึงบ้านภรรยาคนร้าย ท่านเห็นคนร้ายโผล่มาทางหน้าต่างหลังบ้าน จึงบอกให้ตำรวจรู้ คนร้ายเมื่อเห็นเรือ จึงรีบกระโจนออกจากบ้านไป กว่าเรือจะชะลอฝีจักรกลับลำมาหยุดตรงหน้าบ้าน คนร้าย ก็หายไปแล้ว ท่านสังเกตเห็นฟองน้ำแตกเป็นทาง จึงบอกให้ตำรวจทั้ง 4 นาย ไปยืนคุมอยู่ที่มุมคันนา ส่วนท่านตามคนร้ายไปตามรอยนั้น เมื่อตามไปถึงกลางคันนา เห็นคนร้ายหลบอยู่ในซังข้าว พอเข้าไปใกล้ คนร้ายก็ดำน้ำหนี แต่หนี ไม่พ้น ถูกตำรวจช่วยกันจับไว้ทัน ตำรวจจึงใส่กุญแจมือไว้พาคนร้ายกลับมาที่บ้านภรรยา เพื่อให้บอก ที่ซ่อนเงินที่ขโมยมา ก็พบเงินซ่อนอยู่ในกระบุงข้าวเปลือกจำนวน 900 บาทเศษ เมื่อได้เงินคืนแล้ว จึงล่องเรือกลับกรุงเทพฯ หลังจากให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเสร็จแล้ว ตำรวจจึงนำเรือมาส่งท่านที่เรือ ข้าวที่คลองบางกอกน้อย
Complete and Continue