3.6.2 อบายภูมิ 4 - 1. นิรยภูมิ

อบายภูมิ คือ ภูมิกำเนิดที่ปราศจากความเจริญ เป็นสถานที่ที่สัตว์ไปเกิดแล้วไม่มีโอกาสกระทำ

กุศลกรรมหรือความดีเลยแม้แต่น้อย เป็นภูมิที่ต่ำที่สุดในบรรดาภูมิทั้งหมด อบายภูมิมีทั้งหมด 4 ภูมิ ได้แก่นิรยภูมิ เปตติวิ ยภูมิ อสุรกายภูมิ และติรัจฉานภูมิ

1. นิรยภูมิ

นิรยภูมิ หรือ โลกนรก คือ โลกที่ไม่มีความสุข บาย เป็นโลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์ล้วนๆ

ปราศจากความสุขโดยสิ้นเชิงสัตว์ที่ไปเกิดอยู่ในโลกนรกนี้ไม่มีความสุขแม้สักนิดหนึ่งเลย โลกนรกนี้มี อาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลมาก แบ่งเป็นเขตๆ ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง เรียกว่า "ขุม"สัตว์นรกที่บังเกิดขึ้น ในแต่ละขุม จะได้รับทุกขเวทนาแตกต่างกัน แล้วแต่อกุศลกรรมที่ตัวเคยกระทำไว้ ในนิรยภูมินี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ ได้แก่ มหานรก อุ ทนรก และยมโลก

1.1 มหานรก (นรกใหญ่) 8 ขุม

นิรยภูมิประเภทที่ใหญ่ที่สุด เรียกว่า มหานรก มีทั้งหมด 8 ขุม ตั้งซ้อนเรียงกันอยู่เป็นชั้นๆ มี

นายนิรยบาลหรือเจ้าหน้าที่ในมหานรก ซึ่งเกิดจากอำนาจบาปกรรมของสัตว์นรก คอยลงทัณฑ์สัตว์นรกด้วยอาการต่างๆ มหานรกมี 8 ขุม ดังต่อไปนี้

  • 1.1.1สัญชีวมหานรก คือ มหานรกที่ไม่มีวันตาย เหล่าสัตว์ต้องเสวยผลกรรมชั่วที่ตัวได้กระทำไว้อย่างแสนสาหัส เช่น ถูกนายนิรยบาลจับมัดแล้วบังคับให้นอนลงเหนือแผ่นเหล็กแดงที่ร้อนด้วยไฟนรกถูกฟันด้วยดาบนรก อันคมกล้าจนร่างกายขาดเป็นท่อนๆ ถูกถาก ถูกเฉือนเนื้อจนหมด ร่างกายเหลือแต่เพียงโครงกระดูก เมื่อสิ้นใจตายก็จะมี "ลมกรรม" พัดมาต้องกายให้กลับฟนขึ้นมาอีก เป็นๆ ตายๆ อยู่อย่างนี้จนสิ้นอายุขัย เหตุที่มาเกิดในขุมนี้ เพราะทำกรรมปาณาติบาตเป็นส่วนมาก
  • 1.1.2 กาฬสุตตมหานรก คือ มหานรกที่ลงโทษตามเส้นด้ายดำ เหล่าสัตว์จะถูกนายนิรยบาลจับมัดให้นอนเหนือแผ่นเหล็กแดง แล้วเอาด้ายดำ ที่ทำด้วยเหล็กนรกใหญ่เท่าลำตาลมาตีบนร่างจนเป็นรอยเส้นจากนั้นก็เอาเลื่อยมาเลื่อย หรือเอาขวานมาผ่า หรือเอามีดนรกมาเฉือนกรีด ตามเส้นด้ายดำที่ตีไว้จนกายขาดเป็นท่อนๆ เหตุที่มาเกิดในขุมนี้ เพราะทำอทินนาทาน ชอบลักขโมยเป็นส่วนมาก
  • 1.1.3สังฆาฏมหานรก คือ มหานรกที่บดขยี้ร่างกายสัตว์ เหล่าสัตว์จะถูกกองไฟนรก ที่มีอยู่เต็มไปหมดแผดเผาให้ได้รับทุกขเวทนาแสนสาหั จากนั้นก็ปรากฏภูเขาเหล็กนรก 2 ลูกกลิ้งมาบีบขยี้ร่าง จนแหลกลาญ เปรียบเหมือนหีบอ้อยที่บดอ้อยให้แหลกละเอียดฉะนั้น เหตุที่มาเกิดในขุมนี้ เพราะประพฤติผิดในกามเป็นส่วนมาก
  • 1.1.4 โรรุวมหานรก คือ มหานรกที่เต็มไปด้วยเสียงร้องครวญคราง เหล่าสัตว์ต้องเสวยทุกขเวทนาในดอกบัวเหล็ก โดยนอนคว่ำหน้าอยู่กลางดอกบัว ศีรษะจมเข้าไปแค่คาง ปลายเท้าจมลงไปแค่ข้อเท้ามือทั้ง องกางจมมิดแค่ข้อมือ แล้วเปลวไฟก็เผาไหม้ดอกบัวเหล็กพร้อมกับสัตว์นรก จะตายก็ไม่ตายต้องทรมานจนสิ้นอายุขัย เหตุที่มาเกิดในขุมนี้ เพราะมีวจีกรรมชั่วหยาบเป็นส่วนมาก
  • 1.1.5 มหาโรรุวมหานรก คือ มหานรกที่เต็มไปด้วยเสียงร้องครวญครางมากมาย เหล่าสัตว์ต้องถูกลงโทษโดยเข้าไปยืนในดอกบัวเหล็ก ซึ่งมีกลีบที่แหลมคมและร้อนแรงมาก ถูกไฟนรกแผดเผาตั้งแต่พื้นเท้าจนถึงศีรษะและแลบเข้าไปในทวารทั้ง 9 เผาไหม้ทั้งข้างในข้างนอก เพราะมีเปลวไฟอันร้อนแรงเช่นนี้นรกขุมนี้จึงมีชื่ออีกอย่างว่า ชาลโรรุวมหานรก มหานรกที่เต็มไปด้วยเสียงร้องครวญครางเพราะเปลวไฟมิหนำซ้ำยังถูกนายนิรยบาลกระหน่ำตีศีรษะด้วยกระบองเหล็กมีไฟลุกโชนอีก เหตุที่มาเกิดในขุมนี้ เพราะชอบเสพสุราและยาเสพติดต่างๆ เป็นส่วนมาก
  • 1.1.6 ตาปนมหานรก คือ มหานรกที่ทำสัตว์ให้เร่าร้อน เหล่าสัตว์ถูกบังคับให้ขึ้นไปบนปลายหลาวเหล็กใหญ่เท่าต้นตาล แดงฉานด้วยเปลวไฟ แล้วเสียบตนเองอยู่บนปลายหลาวนั้นจนเนื้อหนังสุกพองอุปมาเหมือนเนื้อเสียบไม้ ปิงให้สุกบนถ่านไฟฉะนั้น เมื่อเนื้อสุกแล้วสุนัขนรกตัวใหญ่เท่าช้างสารก็วิ่งมางับแล้วกระชากสัตว์นรกนั้นลงมาจากหลาวเหล็ก ด้วยความหิวกระหาย ฉีกเนื้อเคี้ยวกินจนเหลือแต่กระดูกเหตุที่มาเกิดในขุมนี้ เพราะทำกรรมเกี่ยวกับการพนันเป็นส่วนมาก
  • 1.1.7 มหาตาปนมหานรก คือ มหานรกที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนอย่างมากมายเหลือประมาณเหล่าสัตว์ต้องได้รับทุกข์อันเกิดจากความร้อนของไฟนรกที่แรงที่สุด นรกขุมนี้ทั้งลึกทั้งกว้างสัตว์นรกถูกนายนิรยบาลเอาดาบ แหลน หลาว ซึ่งลุกแดงด้วยเปลวไฟไล่ทิ่มแทง บังคับให้ขึ้นไปบนภูเขาไฟแล้วถูกลมกรดอันร้อนแรงพัดตกลงมาถูกขวากหนามเบื้องล่างเสียบทะลุเลือดแดงฉาน เหตุที่มาเกิดในขุมนี้เพราะเป็นนักเลงอบายมุข คือทำอบายมุขทุกข้อ
  • 1.1.8 อเวจีมหานรก คือ มหานรกที่ปราศจากคลื่น คือความเบาบางแห่งความทุกข์ระหว่างแห่งเปลวไฟไม่มีว่างเว้นเลย ไม่ใช่บางคราก็หนัก บางคราก็เบาอย่างขุมอื่น อเวจีมหานรกนี้เป็นขุมใหญ่ที่สุดล้อมรอบด้วยกำแพงเหล็กอันลุกโชนด้วยเปลวไฟ ภายในมีเปลวไฟร้อนระอุ ไหม้สัตว์นรกอยู่เนืองนิตย์สัตว์นรกในขุมนี้มีมากกว่าขุมอื่นๆ แออัดกันอยู่ภายในกำแพง การเสวยทุกข์นั้นแตกต่างกันไปหลายอิริยาบถเช่นถ้าเคยยืนทำบาปไว้ก็ต้องมาทนทุกข์ในท่ายืน ถ้าเคยเดินทำบาปก็ต้องมาทนทุกข์ในท่าเดิน เคยทำบาปกรรมด้วยอาการอย่างไรก็ต้องมาเสวยทุกข์ด้วยอาการอย่างนั้นเหตุที่มาเกิดในขุมนี้ เพราะทำกรรมหนัก คือ อนันตริยกรรม ได้แก่ ฆ่าบิดา ฆ่ามารดา ฆ่าพระ อรหันต์ ทำโลหิตุปบาท ทำสังฆเภท

1.2 อุสสทนรก (นรกขุมบริวาร)

 

   อุสสทนรกเป็นนรกขุมบริวาร เมื่อสัตว์นรกใช้กรรมในมหานรก จนกระทั่งกรรมเบาบางลงแล้ว จะมารับกรรมในอุสสทนรกต่อไปมหานรกขุมหนึ่งๆ มีอุสสทนรกตั้งอยู่โดยรอบทั้ง 4 ทิศ ทิศละ 4 ขุม รวมเป็น 16 ขุม เมื่อรวมอุสสทนรกที่เป็นบริวารของมหานรกทุกขุมแล้ว จะมีจำนวนทั้งหมด 128 ขุม อุ ทนรกทั้ง 4 ขุมในแต่ละทิศ นั้นมีชื่อเรียกของตัวเอง ซึ่งเป็นชื่อเหมือนกันกับอุสสทนรกในทิศอื่นๆ และเป็นเช่นนี้กับมหานรกทุกขุม ต่างกันแต่เพียงความหนักเบาของทุกข์โทษเท่านั้น ดังนั้นจึงจะขอกล่าวถึงอุสสทนรกเพียง 4 ขุมตามลำดับโดยสังเขปดังต่อไปนี้

  • 1.2.1 คูถนรก

นรกขุมนี้เต็มไปด้วยหมู่หนอนมีปากแหลมดังเข็ม ตัวโตเท่าช้างสาร คอยกัดกินเนื้อของสัตว์นรก จนหมดไม่เหลือแม้แต่กระดูก หนอนที่ตัวเล็กก็จะเข้าไปกัดกินอวัยวะภายในของสัตว์นรก

  • 1.2.2 กุกกุฬนรก

เป็นนรกที่เต็มไปด้วยเถ้ารึงที่ร้อนแรงสำหรับแผดเผา รีระของสัตว์นรกให้ไหม้เป็นจุลไป

หากบาปกรรมยังไม่สิ้นก็ต้องได้รับทุกข์ทรมาน ตาย เกิด ตาย เกิด อยู่อย่างนี้ตลอดไป

  • 1.2.3 อสิปัตตนรก

สัตว์นรกจะถูกใบมะม่วงนรกปลิวลงมากลายเป็นหอก เป็นดาบ ทิ่มแทงให้เป็นแผลเหวอะหวะบางทีก็ขาดเป็นท่อนๆ เมื่อสัตว์นรกวิ่งหนีออกมา จะมีกำแพงเหล็กลุกเป็นไฟผุดขึ้นมากั้นขวางหน้าไว้จากนั้นสุนัขนรก และแร้งนรกปากเหล็กตัวใหญ่โต ก็จะมารุมฉีกทึ้งกัดกินเนื้อ

  • 1.2.4 เวตรณีนรก
  • สัตว์นรกถูกเครือหวายเหล็กบาดร่างกายให้เป็นแผล อยู่ในน้ำเค็ม แล้วก็เกิดเปลวไฟเผาไหม้ทั้งๆ ที่อยู่ในน้ำเค็มนั้น เมื่อจมลึกลงไปก็ถูกกลีบบัวและใบบัวบาดร่างกายให้ขาดวิ่น ดิ้นทุรนทุรายประดุจปลาถูกทุบหัว และถูกนายนิรยบาลจ้วงแทงด้วยหอกแหลนหลาว เหมือนกับเราแทงปลาด้วยฉมวกจากนั้นนายนิรยบาลจะเอาเบ็ดนรกเกี่ยวขึ้นมานอนเหนือแผ่นเหล็กแดง เอาก้อนเหล็กแดงและน้ำทองแดงใส่ปาก อวัยวะภายในลุกไหม้ไหลทะลักออกมา ไส้ใหญ่ไส้น้อยขาดกระจุยกระจายเรี่ยราดออกมาหมด

1.3 ยมโลก (นรกขุมย่อย)


    สัตว์นรกเมื่อได้รับกรรมในอุสสทนรกแล้ว หากกรรมยังไม่สิ้น ก็ต้องมาเสวยทุกข์ในยมโลกต่อไป

มหานรกขุมหนึ่งๆ มียมโลกตั้งอยู่โดยรอบทั้ง 4 ทิศ ทิศละ 10 ขุม รวมเป็น 40 ขุม เมื่อรวมยมโลกที่ตั้งอยู่โดยรอบมหานรกทุกขุมแล้ว จะมีจำนวนทั้งหมด 320 ขุม ยมโลกทั้ง 10 ขุมในแต่ละทิศมีชื่อเรียกของตัวเองเป็นชื่อเหมือนกันกับยมโลกในทิศอื่นๆ และเป็นเช่นนี้กับมหานรกทุกขุม ต่างกันแต่เพียงความหนักเบาของทุกข์โทษเท่านั้น

ส่วนเจ้าหน้าที่ในยมโลกที่คอยตัดสินโทษและลงทัณฑ์สัตว์นรก คือ กุมภัณฑ์ เป็นเทวดาที่มีนิสัย ดุร้าย อาจเป็นพญายมราชสุวรรณเลขาสุวานเลขา หรือเจ้าหน้าที่อื่นๆ มิใช่เกิดจากแรงกรรมอย่างในมหานรกยมโลกที่มีชื่อเรียกเหมือนกัน 10 ขุม มีดังต่อไปนี้

  • 1.3.1 โลหกุมภีนรกสัตว์นรกถูกจับลงไปในหม้อเหล็กใบใหญ่เท่าภูเขาที่มีน้ำแสบน้ำร้อน เดือดพล่านอยู่ตลอดเวลา บางทีนายนิรยบาลก็เอาเชือกเหล็กแดงรัดคอแล้วบิดจนคอขาด เหตุที่ได้รับกรรมเช่นนี้เพราะทำปาณาติบาต
  • 1.3.2สิมพลีนรกสัตว์นรกชายหญิงผลัดกันปีนขึ้นไปหากันบนต้นงิ้วนรก ที่มีหนามเหล็กแหลม ลุกเป็นไฟ ถูกหนามงิ้วบาดจนตัวขาดทะลุ บางทีก็โดนแร้งกานรกปากเหล็กจิกทึ้งเนื้อกิน เหตุที่ได้รับกรรมเช่นนี้ เพราะประพฤติล่วงกาเมสุมิจฉาจาร
  • 1.3.3 อสินขนรกสัตว์นรกมีเล็บมือเล็บเท้าที่ยาวและแหลมเป็นอาวุธ คอยถากตะกุยเนื้อหนัง ของ ตนกินเป็นอาหาร เหตุที่ได้รับกรรมเช่นนี้ เพราะกระทำอทินนาทาน ลักเล็กขโมยน้อย ขโมยของสงฆ์ เป็นต้น
  • 1.3.4 ตามโพทกนรกสัตว์นรกนอนหงายเหนือแผ่นเหล็กแดง นายนิรยบาลเอาน้ำทองแดง เดือดพล่านในหม้อมากรอกปาก น้ำนรกลวกอวัยวะภายในจนแตกเปอยพังทลาย เหตุที่ได้รับกรรมเช่นนี้เพราะดื่มสุราเมรัยเป็นนิตย์
  • 1.3.5 อโยคุฬนรกสัตว์นรกในขุมนี้มีแต่ความหิวโหย ครั้นเห็นก้อนเหล็กแดง ก็คิดว่าเป็นอาหาร เที่ยววิ่งเข้าไปยื้อแย่งกัดกิน ก้อนเหล็กแดงนั้นก็ไหม้ไ ้พุงให้ขาดกระจัดกระจายเต็มไปหมด เหตุที่ได้รับ กรรมเช่นนี้ เพราะยักยอกทรัพย์ของส่วนรวม หรือทรัพย์ที่เขาบริจาคในการกุศลมาใช้ อยส่วนตน
  • 1.3.6 ปิ กปัพพตนรกสัตว์นรกถูกภูเขานรกใหญ่ตั้งอยู่ในทิศทั้ง 4 กลิ้งมาบดทับ จนบี้แบน กระดูกแตกป่นละเอียด เหตุที่ได้รับกรรมเช่นนี้เพราะเป็นเจ้าบ้านเจ้าเมืองที่อันธพาลกดขี่ข่มเหงประชาชนพลเมืองให้เดือดร้อนกันไปทั่ว
  • 1.3.7 ธุ นรกสัตว์นรกมีความกระหายน้ำยิ่งนัก ครั้นเมื่อพบ ระน้ำใสเย็น ก็ดื่มกินเข้าไป ด้วยอำนาจกรรมบันดาลให้น้ำนั้นกลับกลายเป็นแกลบ เป็นข้าวลีบลุกเป็นไฟ ไหม้ได้ใหญ่ได้น้อยให้ไหล ออกมาทางทวารเบื้องล่าง เหตุที่ได้รับกรรมเช่นนี้เพราะเป็นพ่อค้าแม่ค้าทุจริต คดโกง เอาของแท้ปนของเทียมแล้วขาย เป็นต้น
  • 1.3.8 สีตโลสิตนรกสัตว์นรกต้องตกลงไปในน้ำที่เย็นยะเยือก และตายเพราะความเย็นนั้น พอ กลับเป็นขึ้นมาใหม่ก็ถูกจับโยนลงไปอีก เหตุที่ได้รับกรรมเช่นนี้เพราะเป็นคนใจบาป จับสัตว์เป็นๆ โยนลงในเหวในน้ำ เป็นต้น
  • 1.3.9สุนขนรก เป็นนรกที่เต็มไปด้วยสุนัขนรก 5 จำพวก คือสุนัขดำสุนัขขาวสุนัขเหลือง สุนัขแดงสุนัขด่าง คอยไล่ขบกัดสัตว์นรกอยู่ไม่ว่างเว้น เหตุที่ได้รับกรรมเช่นนี้เพราะมีวาจาชั่ว ด่าว่าบิดามารดา พี่ป้าน้าอา ผู้เ่าผู้แก่ ด่าทอผู้ทรงศีลทรงธรรมไม่เลือกหน้า
  • 1.3.10 ยันตปาสาณนรกสัตว์นรกถูกจับโยนเข้าไปให้ภูเขานรก 2 ลูก บดกระทบกัน จนกระดูก ป่นปี เหตุที่ได้รับกรรมเช่นนี้ เพราะเป็นผู้มีใจบาปหยาบช้า ด่าทอประหัตประหารคู่ครองของตน

1.4 โลกันตนรก


   เป็นนรกขุมพิเศษ ที่มีแต่ความมืดมนอนธการสัตว์นรกมีร่างกายใหญ่โต ใช้เล็บมือเล็บเท้าเกาะห้อยโหนอยู่ตามเชิงจักรวาล ครั้นปีนป่ายไปถูกเนื้อตัวเพื่อนสัตว์นรกด้วยกันก็คิดว่าเป็นอาหาร รี่เข้าคว้ากัดกินไล่ฟัดกันจนพลัดตกลงไปในทะเลน้ำกรดอันเย็นยะเยือก ฤทธิ์น้ำกรดกัดร่างกายจนเปอยพังแหลกละลายลงเมื่อกลับเป็นขึ้นมาใหม่ ก็รีบปีนขึ้นมาเกาะเชิงเขาจักรวาลอีก ต้องทุกข์ทรมานอย่างนี้สิ้นกาลนาน ต่อเมื่อพระพุทธองค์มาอุบัติขึ้นในโลก จึงปรากฏแ ง ว่างขึ้นแวบหนึ่ง ชั่วสายฟ้าแลบ

    เหตุที่ได้รับกรรมเช่นนี้เพราะประพฤติตนเป็นมิจฉาทิฏฐิอย่างแรงกล้า เที่ยวกระทำอกุศลกรรมด้วยใจบาปหยาบช้าสามานย์เป็นอาจิณ ประทุษร้ายท่านผู้ทรงศีลเป็นนิตย์ เป็นต้น

ตารางแสดงอายุของสัตว์นรกเปรียบเทียบกับอายุมนุษย์

มหานรก อายุสัตว์นรก 1 วัน 1 คืนนรก อายุของสัตว์นรก(ปีนรก) ล้านปีมนุษย์ (ล้านปีมนุษย์)

  • ขุมที่ 1สัญชีวมหานรก 500 9 1,620,000
  • ขุมที่ 2 กาฬสุตตมหานรก 1,000 36 12,960,000
  • ขุมที่ 3สังฆาฏมหานรก 2,000 144 103,680,000
  • ขุมที่ 4 โรรุวมหานรก 4,000 576 831,040,000
  • ขุมที่ 5 มหาโรรุวมหานรก 8,000 2,304 6,635,520,000
  • ขุมที่ 6 ตาปนมหานรก 16,000 9,216 53,084,160,000
  • ขุมที่ 7 มหาตาปนมหานรก มีอายุประมาณครึ่งอันตรกัป
  • ขุมที่ 8 อเวจีมหานรก มีอายุประมาณ 1 อันตรกัป

Complete and Continue