4.5.3 โครงสร้างวิมานชั้นดุสิตา

ข. โครงสร้างของวิมาน

วิมานจะบังเกิดขึ้น เพื่อรอรับเจ้าของวิมาน คือ เทพบุตร เทพธิดาที่จะมาอุบัติ โครงสร้างของวิมานจะเกิดจากการประกอบกุศล ทาน ศีล ภาวนา เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ บุญนี้จะไปเป็นส่วนประกอบวิมาน ซึ่งมีอยู่ 3 ส่วนหลัก คือ

ดุสิตาภูมิ เป็นสวรรค์ที่ตั้งกลางนภากาศ มีปราสาทวิมานอยู่ 3 ชนิดด้วยกันคือ

รัตนวิมาน คือวิมานแก้ว สุวรรณวิมานคือวิมานทอง และรชตวิมานคือวิมานเงิน

  • ส่วนที่ 1 โครงสร้างชั้นล่าง ที่ประกอบขึ้นจากทานบารมีที่สั่งสมไว้ของเจ้าของวิมาน ไม่ได้มีชั้นเดียว แต่ว่ามีหลายชั้น ซ้อนๆ กันสูงขึ้นไป รอยต่อระหว่างชั้น จะกว้างมาก มีลักษณะเป็นทางสี่เหลี่ยม ถ้าสร้างทานมาก เช่น สร้างโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ พระเจดีย์ ส่วนที่ 1 นี้ก็จะกว้างขวางใหญ่โต
  • ส่วนที่ 2 เป็นโครงสร้างส่วนกลาง ที่ประกอบขึ้นจากศีลบารมีของเจ้าของวิมาน จะมีขนาดเล็กกว่าชั้นล่าง มีลักษณะทรงกลม มีหลายชั้น สูงขึ้นไปเรื่อยๆ
  • ส่วนที่ 3 เป็นโครงสร้างส่วนบนสุด ที่ประกอบขึ้นด้วยบุญจากการทำภาวนาของเจ้าของวิมาน มีลักษณะเป็นทรงกลม มีหลายชั้น สูงขึ้นไปเรื่อยๆ

ในระหว่างชั้นก็จะมีกำแพงกันอีก ถ้าทำทานมากส่วนฐานล่างก็จะใหญ่โต ถ้ารักษาศีลมากส่วนกลางก็จะใหญ่โต ถ้าทำภาวนามากส่วนบนก็จะใหญ่โต แล้วแต่การกระทำทาน ศีล ภาวนา ของเจ้าของวิมาน เมื่อครั้งเป็นมนุษย์

4.5.3 การอุบัติและการบริโภคกามของชาวสวรรค์ชั้นดุสิต

เทพบุตรสุดหล่อ เทพธิดาสุดสวยมีวัยที่งดงาม มีทิพยสมบัติอันประณีตตามกำลังบุญ

      บุคคลเมื่อละโลกแล้ว มีกำลังบุญที่จะได้อุบัติในสวรรค์ชั้นดุสิตแล้ว ก็จะเกิดแบบโอปปาติกะ คือ เกิดแล้วก็เป็นเทพบุตรสุดหล่อ เทพธิดาสุดสวยทันที มีวัยที่งดงาม เทพบุตรอายุอยู่ระหว่าง 18-20 ปี เทพธิดาจะมีอายุอยู่ระหว่าง 16-18 ปี มีทิพยสมบัติอันประณีตกว่าสวรรค์ชั้นยามา เมื่ออุบัติขึ้นแล้ว จะได้รับการต้อนรับจากเทวดาเจ้าหน้าที่ประจำเขต และเหล่าทวยเทพทั้งหลายตามกำลังบุญ โดยเทพปฏิสันถาร มาให้การต้อนรับยังวิมานของตน แล้วก็แนะนำกิจกรรมต่างๆที่ต้องทำในเทวโลกนี้ มีการประชุมฟังธรรมในวันพระ เป็นต้น

เมื่อครั้งเป็นมนุษย์เทพบุตรเทพธิดาในสวรรค์ชั้นนี้เป็นพุทธศาสนิกชนผู้เข้าใจเรื่องบุญบาป

      เทพบุตรเทพธิดาของสวรรค์ชั้นนี้ แต่ละท่านล้วนมีความงดงาม พร้อมทั้งมีจิตใจที่สูงส่ง และส่วนมากเป็นพุทธศาสนิกชน จึงมีความเข้าใจเรื่องบุญเรื่องบาป และในเรื่องธรรมะดีมาก มีความสนใจในการสมาคมกับบัณฑิตนักปราชญ์ ยินดีในการประพฤติธรรม เพราะมีนักสร้างบารมี และมีพระบรมโพธิสัตว์ ซึ่งเป็นผู้รู้แจ้งในธรรมะอยู่มาก จึงมีการแสดงธรรมกันมิได้ขาด แม้ว่าสวรรค์ชั้นนี้จะเสวยสุขอันเป็นทิพย์ที่มีความประณีตกว่าสวรรค์ชั้นต้น แต่เทพบุตร เทพธิดาก็ไม่ประมาทเหมือนชาวสวรรค์ชั้นอื่นๆ ใน ทุกวันธรรมสวนะ เหล่าทวยเทพจะมาประชุมกัน เพื่อฟังธรรม ทั้งนี้เพราะท้าวสันตดุสิตเป็นผู้ทรงธรรม ที่เป็นพหูสูต ทรงมีอัธยาศัยยินดีในการฟังธรรมและแสดงธรรม 

      ท้าวสันตดุสิต ท่านมักจะอัญเชิญเทพบุตรผู้มีศักดิ์ใหญ่ ผู้มีภูมิรู้ภูมิธรรมสูง มีปัญญากว้างไกล ให้มาแสดงธรรมในเทวสภาอยู่สม่ำเสมอ ส่วนเรื่องการบริโภคกามของเหล่าเทพบุตรและเทพธิดาในสวรรค์ชั้นนี้ ไม่มีการเสพเมถุนแบบมนุษย์ ไม่มีน้ำเป็นที่สุดเหมือนมนุษย์ เพียงแค่สัมผัสกอดรัดกันแบบหลวมๆ คล้ายการโอบกอดแบบเพื่อน แต่คิดแบบภรรยาสามี แล้วก็เป็นที่พึงพอใจซึ่งกันและกัน เพราะสวรรค์ชั้นนี้มีสมบัติที่ละเอียด ประณีต ทำให้คลายเรื่องการเสพกามไปได้มาก สวรรค์ชั้นนี้ไม่มีการตั้งครรภ์ ไม่มีการเกิดอย่างมนุษย์ ไม่มีการเกิดแบบชลาพุชะ อัณฑชะ สังเสทชะ มีการเกิดแบบโอปปาติกะอย่างเดียว เช่นเดียวกับสวรรค์ชั้นดาวดึงส์และสวรรค์ชั้นยามา

เทวดาในสวรรค์ชั้นนี้มีวัยที่งดงาม 

เทพบุตรอายุระหว่าง 18-20 ปี เพทธิดาอายุระหว่าง 16 -18 ปี

4.5.4 อายุขัยของสวรรค์ชั้นดุสิต

อายุของชาวสวรรค์ชั้นนี้ มีปรากฏใน วิตถตสูตร8) ว่า

“   ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย 400 ปีมนุษย์ เป็นคืนหนึ่งวันหนึ่งของเทวดาชั้นดุสิต 30 ราตรี โดยราตรีนั้นเป็นเดือน หนึ่ง 12 เดือน โดยเดือนนั้นเป็นปีหนึ่ง 4,000 ปีทิพย์โดยปีนั้น เป็นประมาณอายุของเทวดาชั้นดุสิต” 

      จากพระสูตรนี้ ทำให้เราทราบอายุของสวรรค์ชั้นนี้ว่า มีอายุ 4,000 ปีทิพย์ อายุของสวรรค์ชั้นนี้ มากกว่าสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาถึง 8 เท่า ถ้านับเป็นอายุมนุษย์ก็เท่ากับ 576 ล้านปีในเมืองมนุษย์

4.5.5 เหตุที่สวรรค์ชั้นดุสิตเป็นศูนย์รวมผู้รู้

      ดังที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้วว่า สวรรค์ชั้นดุสิตมีความพิเศษกว่าสวรรค์ชั้นอื่นอยู่หลายประการ หนึ่งในความพิเศษนั้น คือ เป็นที่อยู่ของเหล่าพระบรมโพธิสัตว์ที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตจำนวนมาก และเหล่าเทพบุตรที่สร้างบารมีเป็นพระสาวกที่จะตามพระบรมโพธิสัตว์ลงมาตรัสรู้ในอนาคต แล้วทำไมพระบรมโพธิสัตว์ หรือบัณฑิตทั้งหลายจึงปรารถนาที่จะได้มาบังเกิดบนสวรรค์ชั้นดุสิต ทั้งที่กำลังบุญของแต่ละท่านนั้นมากมาย ปรารถนาจะมาบังเกิดในสวรรค์ชั้นใดก็ได้ เหตุที่ท่านเลือกสวรรค์ชั้นนี้ มีข้อสังเกตอย่างน้อย 3 ประการ คือ

  • 1. ขนาดอายุทิพย์ของสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ ไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไป พอเหมาะพอดีที่จะเสวยสุข เพราะท่านจะต้องลงมาสร้างบารมีต่อ ถ้านานเกินไปจะทำให้เสียเวลา

สวรรค์ชั้นดุสิตาเป็นที่อยู่ของเหล่าพระบรมโพธิสัตว์ที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตจำนวนมาก และเหล่าเทพบุตรที่สร้างบารมีเป็นพระสาวกที่จะตามพระบรมโพธิสัตว์ลงมา ตรัสรู้ในอนาคต

  • 2. พระโพธิสัตว์สามารถจุติลงมาได้ตามใจปรารถนา หมายความว่า โดยปกติเทวดามีเหตุแห่งการจุติหลายประการ หมดบุญก็มี หมดอายุขัยก็มี จุติเพราะความโกรธก็มี แต่พระบรมโพธิสัตว์ทั้งหลาย ในสวรรค์ชั้นดุสิตนี้เมื่อจะจุติมาสร้างบารมี หรือจะมาบังเกิดเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็จะนั่งทำสมาธิ อธิษฐานจิต ก็สามารถดับวูบลงมาเกิดได้ เป็นสิ่งที่อยู่เหนือกฎเกณฑ์ธรรมชาติ
  • 3. ได้สนทนาธรรมตามอัธยาศัยของเหล่าบัณฑิตทั้งหลาย เนื่องจากสวรรค์ชั้นนี้ มีแต่บัณฑิต มีแต่พระบรมโพธิสัตว์ที่มีอัธยาศัยคล้ายคลึงกัน ที่จะฝึกฝนตนเองและรื้อสัตว์ขนสัตว์ไปสู่ฝั่งพระนิพพาน เมื่อมาประชุมกัน จะได้สนทนาธรรมกันในเรื่องเหล่านี้ ซึ่งจะนำความปลาบปลื้มใจมาสู่ผู้ที่ได้สนทนา 

      ดังนั้น นักศึกษาคงจะเข้าใจแล้วว่า ทำไมเหล่าพระบรมโพธิสัตว์จึงมาอยู่รวมกัน ณ สวรรค์ชั้นดุสิต ซึ่งเป็นความพิเศษยิ่งกว่าสวรรค์ชั้นใด 

------------------------------------------------------------------

  • 8) วิตถตสูตร, อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต, มก. เล่ม 37 ข้อที่ 132 หน้า 505-506.

Complete and Continue